กิจกรรม(Activity) บทที่ 1

กิจกรรม (Activity)

1.สืบค้นจากหนังสือหรือในระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เรื่อง การพัฒนามนุษย์ การศึกษา การเรียนรู้และหลักสูตร
ตอบ ทรัพยากรมนุษย์เป็นปัจจัยสำคัญ และจำเป็นต่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และวัฒนธรรม

การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เป็นดรรชนีชี้วัดการพัฒนา  ที่ตรงกับความเป็นจริงและน่าเชื่อถือกว่าดรรชนีอื่นๆแต่เพียงตัวเดียว

เป็นที่ยอมรับกันว่า ประเทศด้อยพัฒนาเพราะประชาชนในประเทศด้อยพัฒนา ไม่มีโอกาสขยายศักยภาพและสมรรถภาพ เพื่อทำงานพัฒนาและบริการสังคม

ด้วยเหตุนี้ หากประเทศใดขาดความสามารถในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาระบบต่างๆดังกล่าวแล้วจะเป็นไปได้ยาก 

การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์คืออะไร  การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เป็นกระบวนการเพิ่ม ความรู้ ทักษะ และสมรรถวิสัย ให้กับมนุษย์ในสังคม 

ในทางเศรษฐศาสตร์ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ หมายถึง การสร้างสมทุนมนุษย์ เป็นการลงทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ

ในทางการเมือง การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ หมายถึง การเตรียมคนเพื่อเข้ามีส่วนร่วมในกระบวนการทางการเมืองเมื่อโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะที่เป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย

ในทางสังคมและวัฒนธรรม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ หมายถึง การช่วยให้มนุษย์มีชีวิตที่สมบูรณ์และมั่งคั่ง มีความคิด ความเชื่อ ค่านิยม และทัศนคติที่เหมาะสม

นอกเหนือจากการใช้การศึกษาแล้ว การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สามารถทำได้ด้วยการจัดให้มีบริการสาธารณะสุขและการแพทย์ที่ดี การให้สวัสดิการและการให้กำลังใจในการปฏิบัติงาน การปรับปรุงภาวะโภชนาการ และการอพยพย้ายถิ่น

อย่างไรก็ตาม การศึกษาเป็นเครื่องมือพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่บทบาทสำคัญกว่าวิธีการอื่นๆ  การศึกษาเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สามารถใช้ได้ทั้งการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการพัฒนาตนเอง

การศึกษาในระบบ หมายถึง การศึกษาในระบบโรงเรียน โดยเริ่มตั้งการศึกษาขั้นพื้นฐานจนถึงขั้นอุดมศึกษา ปกติเมื่อพูดถึงการศึกษา คนส่วนใหญ่มักจะหมายถึงการศึกษาในระบบนี่เอง

การศึกษานอกระบบ หมายถึง การศึกษานอกระบบโรงเรียน เป็นการศึกษาระบบเปิด เป็นการศึกษาที่ช่วยสร้างความรู้ ทักษะ และสมรรถภาพ ให้กับบุคคลที่อยู่นอกระบบโรงเรียน เพื่อประโยชน์ในการประกอบอาชีพและบริการด้านอื่นๆ

การพัฒนาตนเอง เป็นวิธีการที่แต่ละคนแสวงหา ความรู้ ทักษะ และสมรรถนะเพิ่มขึ้น โดยการเตรียมการและริเริ่มของตนเอง ตามความสนใจและความจำเป็นในการประกอบอาชีพ เป็นการศึกษาที่เกิดจากอิทธิพลทางบ้าน สังคม และสื่อต่างๆ

ในการวางแผนเพื่อจัดการศึกษาเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ให้สอดคล้องกับความต้องการกำลังคน จำเป็นจะต้องตอบคำถามต่อไปนี้ให้ชัดเจน

          1. การจัดการศึกษาภาคบังคับ ควรให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพ หรือ ปริมาณ

          2. ระดับอุดมศึกษา  จะให้ความสำคัญกับการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือ จะให้ความสำคัญกับ วิชา นิติศาสตร์ ศิลปศาสตร์ และ มนุษยศาสตร์

          3. การพัฒนาทักษะ  จะพัฒนาก่อนทำงาน หรือ จะพัฒนาในระหว่างทำงาน

          4. การสร้างแรงจูงใจทางการศึกษา จะใช้โครงสร้างของค่าจ้างและเงินเดือน หรือ ปล่อยให้เป็นเรื่องของตลาดแรงงาน

          5. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์  ควรเป็นไปเพื่อสนองความต้องการและความปรารถนาของแต่ละบุคคล  หรือ สนองความต้องการและความปรารถนาของรัฐ

การตอบคำถามดังกล่าว จำเป็นจะต้องคำนึงถึง งบประมาณ ทรัยากรทางการศึกษา ลักษณะของระบบเศรษฐกิจ การเมือง สังคมและวัฒนธรรมของแต่ประเทศ หากตอบผิด การศึกษาจะก่อให้เกิดปัญหาต่อไปนี้คือ

          1. ปัญหาการขาดแคลนกำลังคนระดับสูงที่จำเป็นต่อการพัฒนา

          2. ปัญหาเรื่องกำลังคนเหลือเฟือ ที่ไม่ตรงกับความต้องการ หรือใช้ประโยชน์จากกำลังคนที่ผลิตได้ไม่เต็มที่

ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว ในการสร้งหลักสูตรหรือโปรแกรมเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในประเทศหนึ่งประเทศใด จะต้องมีการประเมินในเรื่องต่อไปนี้

          1.ความต้องการกำลังคนในระดับต่างๆ เป็นการคาดคะเนการใช้กำลังคนในอนาคต ว่าต้องการกำลังคนระดับใดจำนวนเท่าใด

          2. การศึกษาในระบบ ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงระดับมหาวิทยาลัย มีมากน้อยเพียงใด คุณภาพเป็นอย่างไร

          3. สถาบันสำหรับการฝึกอบรมระหว่างประจำการ และการศึกษาผู้ใหญ่ มีมากน้อยเพียงใด

          4.โครงสร้างของแรงจูงใจให้บุคคลเข้ารับการศึกษาเหมาะสมหรือไม่ และการใช้ประโยชน์จากกำลังคนระดับสูงมากน้อยเพียงใด

จะเห็นว่าการใช้การศึกษาเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์นั้น  ใช่เพียงแค่เปิดสถานศึกษาหรือให้บริการศึกษาเพียงพอเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงความต้องการกำลังคนที่สอดคล้องกับระบบการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ประกอบด้วย



2.อุปมาอุปมัย : เมื่อการศึกษาเปรียบได้กับเครื่องมือการพัฒนามนุษย์ หลักสูตรเปรียบได้กับสิ่งใด

ตอบ หลักสูตรเปรียบเสมือนสายน้ำ น้ำเปรียบเสมือนความรู้ สายน้ำมีการเคลื่อนตัวตลอดเวลา สายน้ำแยกย่อยเป็นแม่น้ำหลายสาย สายน้ำแยกย่อยเป็นคูคลองมากมาย สายน้ำคดเคี้ยวเลี้ยวไปตามสภาพภูมิประเทศและเหตุการณ์ สิ่งมีชีวิตที่อยู่ใกล้น้ำก็จะพบว่ามีความเจริญงอกงามดี สภาพพื้นที่ ที่ต่างกันมีความจำเป็นที่ต้องการน้ำต่างกันด้วยเช่นกัน สายน้ำอาจเกิดขึ้นจากรูปแบบทางธรรมชาติ   สายน้ำอาจเกิดขึ้นจากความต้องการของมนุษย์  มนุษย์ขุดคลองเพื่อใช้ทำการเกษตร  มนุษย์รู้จักการทำชลประทาน การสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำ  ไม่ว่าจะการสร้างเขื่อนเพื่อการชลประทานหรืออย่างไร มนุษย์รู้จักการจัดการกับระบบเพื่อให้ระบบจัดการกับตนเองและได้ประโยชน์สูงสุด ระบบในการจัดการนี้จึงเปรียบเสมือนหลักสูตรที่สร้างขึ้นจากความต้องการจำเป็นในเหตุผลต่างๆนานาประการ 
เราอาจเรียกต่างกันว่าสายน้ำ ลำน้ำ คูน้ำ ห้วย หนอง คลอง บึง  ไม่ว่าจะเรียกว่าเป็นสิ่งใดก็ตาม แต่ก็จะประกอบไปด้วยปัจจัยสำคัญก็คือน้ำ  น้ำเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิต หากเปรียบดั่งความรู้ ความรู้ก็เป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิต ซึ่งหากปราศจากความรู้ ชีวิตคงไม่สามารถก้าวเดินไปเบื้องหน้าได้อย่างมั่นคง
หลักสูตรเป็นดั่งสายน้ำที่จัดรูปไปตามริ้วขบวนที่ความต้องการทางธรรมชาติเป็นผู้กำหนด สายน้ำแต่ละสายลดเลี้ยวไปในที่ๆต่างกันไปตามแรงสภาวะของธรรมชาติ คล้ายกับการออกแบบหลักสูตรเพื่อเป็นไปตามความต้องการของเป้าประสงค์ อาทิ การเรียนรู้แบบผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง หรือการเรียนรู้แบบสังคมเป็นศูนย์กลางเป็นต้น  เมื่อธรรมชาติได้กำหนดทิศทางของสายน้ำแล้ว น้ำที่ไหลเรื่อยไปจึงถูกนำไปใช้เพื่อก่อเกิดประโยชน์สูงสุด การนำหลักสูตรไปใช้หรือการที่น้ำถูกนำไปใช้ประโยชน์จึงอยู่ในมิติความหมายเดียวกัน เมื่อถึงขั้นตอนแห่งการประเมินผล ในทางหลักสูตรอาจดูจากผลที่ได้จึงสามารถประเมินค่าในการใช้หลักสูตรนั้นๆออกมาได้  หากแต่การเปรียบประเมินผลถึงสายน้ำแล้วคงไม่พ้น ดอก หรือผลของต้นไม้ในธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย   ต้นไม้แต่ละต้นยังเปรียบเสมือนผู้เรียนแต่ละคน  ต้นที่รับน้ำน้อยอาจมีลำต้นไม่ได้มาตรฐานหรือเกิดลักษณะบกพร่องไป  นอกเสียจากว่าต้นไม้บางประเภทอาจมีความต้องการบางอย่างที่ต่างออกไป แต่อย่างไรก็แล้วแต่คงไม่มีสิ่งใดในโลกที่ไม่ต้องการน้ำ เพียงแต่มากน้อยต่างกันไปตามองค์ประกอบของตนเท่านั้น
บทสรุปของการอุปมาอุปมัย  จากที่กล่าวมาข้างต้นสายน้ำสามารถเปรียบได้ถึงหลักสูตรที่จะนำพาน้ำอันเปรียบเสมือนความรู้ที่ถูกจัดอยู่ในกรอบกำหนดของขอบเขตสิ่งที่ไหลไปอย่างเป็นระบบมีและจุดหมายปลายทาง การออกแบบจะเป็นไปตามความต้องการของสภาพแวดล้อมและความต้องการนั้นๆ
ส่วนการประเมินผลสามารถรับรู้ได้จากผลของพืชและสิ่งมีชีวิตที่ได้ประโยชน์จากน้ำและสายน้ำนี้ หากมีความอุดมสมบูรณ์ดีหรือมีความผิดปกติบางประการอาจตรวจสอบได้จากน้ำที่ให้ประโยชน์หรือตรวจสอบจากดินและสภาพแวดล้อมรวมถึงการปรับปรุงแก้ไขไปตามความถูกต้องเพื่อให้เกิดประโยชน์และเป้าหมายสูงสุดของความเจริญงอกงามนั่นเอง
        สายน้ำ  เปรียบเสมือน  หลักสูตร
        น้ำ  เปรียบเสมือน  ความรู้
        พืชพรรณและสิ่งมีชีวิต  เปรียบเสมือน  ผู้เรียน
        ดอกผลที่ได้    เปรียบเสมือน   ผลที่ได้จากการประเมิน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บล็อคนี้เป้นส่วนหนึ่งของวิชาการพัฒนาหลักสูตร โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิจิตรา ธงพานิช สาขาหลักสูตรและนวัตกรรมการจัดการเรียนรู...